ทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก
การเปลี่ยนแปลงสิ่งเล็กๆก็สามารถส่งผลกระทบขนาดใหญ่ได้เช่นกัน
ต้นฉบับ คลิ๊ก
"เธอแน่ใจแล้วหรอแม็ก?" เธอถาม "ที่เธอเอาตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ฉันหมายถึง ปีที่ผ่านมามันได้เปลี่ยนโคลอี้ ไม่ใช่คนเดียวกับเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้วนะ"
"ฉันรู้ค่ะจอย"
"แน่ใจจริงๆหรอแม็ก? แน่ใจนะว่าเธอรู้ว่าเธอกำลังปล่อยให้ตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร? ฉันรักลูกสาวของฉันนะ แต่มันคงยากสำหรับเธอถ้าจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับโคลอี้ เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาและภาระของโคลอี้ ดังนั้นฉันขอถามเธออีกครั้ง แน่ใจนะว่าเธอรู้ว่าตัวเองกำลังจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับอะไร?"
"ค่ะจอย ฉันรู้" แน่นอนว่าฉันต้องรู้ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาฉันได้เห็นด้านที่อ่อนแอทั้งหมดของโคลอี้ และแบ่งเบามันมาที่ฉัน ได้เห็นเธอกรีดร้องมาที่ฉันและรับฟังเธอช่วยให้เธอผ่านพ้นมันมาได้ ฉันรู้จักปัญหาของโคลอี้มากกว่าใครจะรู้ได้
จอยถอนหายใจด้วยความโล่งอก"ดีแล้วล่ะ ฉันก็แค่ต้องการให้ลูกสาวของฉันมีความสุข ครั้งสุดท้ายที่เธอมีความสุขมากที่สุดก็ตั้งแต่ก่อน...ก่อนที่วิลเลี่ยมจะ..."
"ฉันเข้าใจค่ะจอย"
เธอยิ้ม"ไม่เป็นไรแม็ก ฉันเชื่อใจเธอและขอหยุดการสนทนาเพียงเท่านี้เพื่อให้เธอไปทำให้โคลอี้มีความสุข แต่อย่าลืมว่าก็ต้องให้ตัวเธอเองมีความสุขด้วยนะ ถ้าโคลอี้ทำให้เธออารมณ์เสีย บอกให้ฉันรู้แล้วเดี่ยวฉันจะรีบตามไปจัดการโคลอี้ให้เอง"
ฉันยิ้มอย่างประหม่า"ฉันมั่นใจว่ามันจะไม่เป็นอย่างนั้นค่ะจอย"
จอยพูดออกมาด้วยเสียงที่ดูปัดๆไป"ก็หวังว่างั้น"
ทันใดนั้นประตูหน้าบ้านก็เปิดออก ฉันเหลือบมองไปที่ทางเดินก็เห็นเดวิดกำลังถอดเสื้อแจ็คเก็ต
"จอย ผมกลับมาแล้ว"
"เดวิด ฉันอยู่ในห้องครัว"
เขามองเข้ามาและเห็นฉันยืนอยู่
"โอ้ เธอนี้เอง" ไม่มีการกล่าวหาในน้ำเสียงของเขา เดวิดในเส้นเวลาก่อนหน้านั้นไม่ค่อยชอบใจที่ฉันมาอยู่ในบ้านของเขาตอนที่เจอกันครั้งแรก เดวิดคนนี้ดูแตกต่างออกไป
จู่ๆฉันก็ตกใจ ถ้าหากเดวิดต่างออกไป แล้วอะไรละที่ฉันไปเปลี่ยนมัน?
เขาเดินเข้ามาใกล้และพูดกับฉันเบาๆ มันมีความเป็นห่วงในน้ำเสียงของเขา"ฉันรู้ว่าการถูกยิงมันเป็นยังไง ถ้าเธอต้องการหาคนคุยเรื่องนี้...." ฉันรู้เลยว่าเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ก็แค่เพียงมุมมองของเขาต่อฉันมันเปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้เขามองฉันว่าเป็นวัยรุ่นที่น่าสงสัย ตอนนี้เขามองว่าฉันเป็นคนที่ต้องการให้เขาช่วย และบางทีเขาอาจจะคิดว่ามีแค่เขาที่ช่วยฉันได้
"ขอบคุณสำหรับขอเสนอค่ะ คุณแมดเซ็น แต่ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ"
เขายังไม่ลดความมั่นใจ"ก็ได้ แต่ถ้าเธอไม่สบายใจ..."
"เดวิด แม็กไม่ต้องการจะจำเรื่องพวกนั้นนะ" เดวิดหันไปหาจอยและกอดเธอ "คุณจำแม็กไม่ได้งั้นหรอ?" จอยพูดต่อ "คืองี้นะ แม็กและโคลอี้น่ะเป็น...." ฉันรีบทำท่าทางบอกจอยอยู่ข้างหลังเดวิด พยายามส่ายหัวและทำนิ้วกากบาทให้เธอไม่พูด เดวิดอาจจะเปลี่ยนไปบ้างแต่ฉันมันใจว่าเขาจะถามมากเรื่องฉันกับโคลอี้แน่ๆ โชคดีที่จอยเข้าใจ "...เป็นเพื่อนสนิทตอนที่พวกเธอยังเด็กน่ะ" ฉันรีบยกนิ้วให้กับเธอ และเดวิดก็พยักหน้า
"มีเหตุผล"เขาหันกลับมาหาฉัน"ถึงว่าโคลอี้ถึงตกใจขนาดนั้น ตอนฉันที่เธออยู่ในห้องน้ำฉันสาบานเลยว่านั้นเป็นช่วงเวลาเดียวที่ฉันได้อยู่กับเธอแล้วเธอไม่ได้สาปแช่งฉัน"
"เดวิด!" จอยตำหนิเดวิด "คุณก็รู้ว่านั้นไม่จริง"
"งั้นหรอ?"
"เราไม่ควรมาโต้แย้งกันตอนนี้นะเดวิด" คำพูดของจอยนั้นชัดเจนเลยว่าเธอต้องการจะป้องกันฉันออกจากเรื่องภายในครอบครัวที่ผิดปกติ เป็นอีกครั้งที่ฉันรู้มากกว่าเธอ เดวิดยักไหล่ทำท่าไม่พอใจและหันกลับมาหาฉัน "ไม่ใช่ว่าเธอควรจะกลับไปที่แบล็กเวลหรอ?" ยามรักษาความปลอดภัยกลับมาเข้าเวรแล้ว "ถ้าเธอพลาดรถบัส เธอจะโดนจับได้นะ"
ฉันตรวจดูเวลาในโทรศัพท์และเดวิดพูดถูก นี้มันสายมากแล้ว ฉันยังพอมีเวลาอยู่บ้างก่อนที่แบล็กเวลจะประกาศเคอร์ฟิว ฉันควรจะออกจากที่นี้แล้วกลับหอพักได้แล้ว
"คือฉันต้องไปแล้วและขอไปบอกลาโคลอี้ก่อนนะค่ะ" ฉันพูดก่อนที่จะเดินขึ้นบันไดไป โคลอี้นอนอยู่บนเตียง ขีดเขียนอะไรบางอย่างบนสมุดบันทึก เธอไม่ได้ยินว่าฉันเข้ามา ฉันจึงย่องเข้าไปข้างหลัง
"วาดอะไรอยู่หรอ?"ฉันตะโกนถามเธอ โคลอี้ตกใจลุกออกจากเตียงทันที
"แม็ก!"ฉันพยายามเอื้อมมือไปเอาสมุดเพื่อดูว่าเป็นเธอวาดอะไร แต่เธอเก็บไม่ให้ฉันเห็น
"เฮ้! เธออ่านบันทึกของฉันก่อนนะ มันไม่แฟร์"
นี้โคลอี้...หน้าแดงงั้นหรอ? "แม็ก ฉันสัญญา ฉันจะให้เธอดูแน่เมื่อมันเสร็จ แต่ตอนนี้ยังก่อนเข้าใจมั้ย?"
ส่วนหนึ่งของฉันอยากจะรู้ว่ามันคือรูปอะไร แต่อีกส่วนหนึ่งของฉันก็เคารพความเป็นส่วนตัวของเธอ มากกว่าที่เธอเคารพฉันเสียอีก
"ตกลง" ฉันตอบเธอไป "แต่เธอต้องให้ฉันดูนะ"
"แน่นอนแม็ก"
"ฉันต้องไปแล้ว ต้องกลับไปแบล็กเวลก่อนที่จะเคอร์ฟิว"
เธอวางสมุดบันทึกลงที่พื้น และคว่ำหน้าสมุดลง "ตกลง เจอกันพรุ่งนี้ใช่มั้ย?"
"เจอกันพรุ่งนี้ ฉันสัญญา"
เธอมายืนตรงหน้าและจูบฉัน มันไม่เหมือนกับจูบที่จอยเข้ามาขวางก่อนหน้านี้ แต่ว่าฉันต้องรีบกลับแล้ว ฉันมองเห็นความปราถนาในสายตาของเธอในขณะที่ฉันออกมา ลงบันไดมาเพื่อบอกลาจอยแล้วเดินไปที่ป้ายจอดรถ ภายในจิตใจของฉันกระโดดโลดเต้นเป็นอย่างมาก ฉันบอกโคลอี้ไปว่าฉันรักเธอ และเธอก็ตอบรับความรู้สึกของฉันอีกด้วย และสิ่งที่เกิดขึ้นกับจอยมันอึดอัด แต่ในท้ายที่สุดจอยก็ดูเหมือนจะรับได้ ฉันไม่คิดจะบอกเรื่องนี้ให้เดวิดรู้ ฉันเตือนตัวเองว่าตอนนี้ครอบครัวยังไม่รู้เรื่องของฉัน แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันมีแฟนสาวแล้ว
จบ
ก็จบไปแล้วนะครับสำหรับตอนสุดท้าย อยากให้มีต่ออีกจริงๆนะเนี้ย
เป็นแฟนฟิคที่ตอบสนองคู่แม็กโคลอี้ได้ดีจริงนะเออ ลงตัวทุกอย่างเลย
พอนึกภาพโคลอี้หน้าแดงแล้วนี้แบบฟินมากค่ะ อยากรู้แหะว่าโคลอี้วาดรูปอะไร
นิยายจบแล้วจะไปทำอะไรต่อดีละเนี้ย 5555 ติดตามกันต่อไปด้วยนะครับ
***ขอแก้ไขครับ ผู้แต่งนิยายเรื่องนี้แต่งตอนที่11ต่อแล้วนะครับ แสดงว่ายังไม่จบ
ผมดันด่วยสรุปว่าจบแล้ว ขออภัยด้วย555
***ขอแก้ไขครับ ผู้แต่งนิยายเรื่องนี้แต่งตอนที่11ต่อแล้วนะครับ แสดงว่ายังไม่จบ
ผมดันด่วยสรุปว่าจบแล้ว ขออภัยด้วย555
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น