(แปลนิยาย)We are Alive ตอนที่8

ทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก
การเปลี่ยนแปลงสิ่งเล็กๆก็สามารถส่งผลกระทบขนาดใหญ่ได้เช่นกัน
แม็กเป็นห่วงโคลอี้ จึงโทรเรียกเธอออกมาหา
ตอนจบที่"สมบูรณ์"ของเรื่องราวระหว่างแม็กกับโคลอี้ ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ต้นฉบับ คลิ๊ก
โคลอี้มารอฉันอยู่ที่ลานจอดรถเรียบร้อยแล้วตอนฉันมาถึง เป็นอีกครั้งที่เธอยืนพิงรถของเธอพร้อมกับสูบบุหรี่ไปด้วย พอฉันเข้าไปใกล้ เธอก็ยิ้มและทิ้งบุหรี่ลงที่พื้น
"เฮ้ แม็ก เป็นไงบ้าง ตอนเธอโทรมาเสียงของเธอฟังดูกระวนกระวายจัง?" ฉันรู้สึกถึงความกังวลในน้ำเสียงของเธอเช่นกัน
"ไม่มีอะไรหรอก" ฉันโกหกเธอ ถ้าฉันบอกสิ่งที่ฉันรู้แล้วออกไปมันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง จะให้ฉันบอกกับเธอว่าฉันเป็นกังวลว่าเธอจะฆ่าตัวตายเพียงเพราะว่าฉันอ่านหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวการฆ่าตัวตายของผู้ชายที่ฉันไม่ควรจะรู้จักด้วยซ้ำงั้นหรอ "ฉันแค่อยากเจอเธอน่ะ ชดเชยช่วงเวลาที่หายไป"
"พูดตรงไปตรงมาจังนะ" เธอหัวเราะ "5ปีที่หายไปมันเป็นเวลาที่ยาวนานมากนะถ้าเธอจะชดเชย เพราะงั้นเธอควจจะเริ่มได้แล้ว"
"ถ้างั้น เธออยากจะทำอะไรละ?" ฉันถามเธอ "ฉันไม่รู้ว่าเธอทำอะไรสนุกๆบ้าง"
โคลอี้ยิ้ม "สิ่งสนุกๆที่ฉันทำ มันไม่ใช่สิ่งที่เธอจะสนุกด้วยน่ะสิ..." เธอชะงักชั่วครู่ "บางทีพวกเรากลับไปที่บ้านฉันมั้ย พ่อเลี้ยงของฉันก็ไม่อยู่บ้าน แถมแม่ฉันยังบอกให้ฉันใช้เวลากับเธอให้มากตั้งแต่เธอฟื้นตัวที่โรงพยาบาลแล้วด้วย"
"ฟังดูน่าสนนะ" ฉันเห็นด้วยกับเธอ
"เยี่ยม! งั้นเรารีบไปก่อนที่เจ้าพนักงานซื่อบื้อจะมาเจอเถอะ"
การนั่งรถไปที่บ้านของโคลอี้ ระยะทางสั้นๆและไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น รถกระบะของเธอก็น้ำมันไม่หมด ไม่มีอะไรมาขัดขวางและเธอก็ไม่ได้ขับไปชนรถคันอื่น แล้วเธอก็ขับมาจอดที่หน้าโรงจอดรถ ในขณะที่ฉันกำลังออกจากรถ โคลอี้ก็เปิดประตูหน้าบ้านเรียบร้อยแล้ว เธอตะโกนเรียกแม่ของเธอ เพื่อตั้งใจบอกจอยว่าเธอพาฉันมาด้วย เมื่อฉันเข้ามาในบ้าน จอยเอนตัวออกมาจากห้องครัวเพื่อทักทายฉัน ในมือก็กำลังล้างจานไปด้วย
"แม็ก สบายดีมั้ยจ่ะ ดีจริงๆที่ได้เจอเธอเร็วแบบนี้" ฉันรู้สึกได้ถึงความโล่งอกในน้ำเสียงของเธอ เพราะฉันปรากฏตัวมาตามสัญญาที่ได้ให้เธอไว้ตอนอยู่ที่ร้านอาหาร  "ฉันเดาว่าเธอคงจะอยู่ทานข้าวเย็นนะ?"
"ฉันไม่อยากรบกวนค่ะ จอย"
เธอยิ้ม "ไม่ได้รบกวนอะไรหรอกนะ แม็ก" จอยชี้ขึ้นไปบนบรรได "ฉันคิดว่าโคลอี้เข้าห้องไปแล้วละ"
ฉันพยายามห้ามใจไม่ให้ไปที่เตาผิงในห้องรับแขกที่มีรูปวาดผีเสื้อของฉันและมุ่งหน้าขึ้นบรรไดเพื่อเข้าไปที่ห้องของโคลอี้ เมื่อเข้ามาในห้องฉันรู้สึกว่ามิติกำลังบิดเบือนเหมือนตอนอยู่ที่ร้านอาหารอีกครั้ง กระดานไม้ที่พวกเราใช้หาหลักฐานเกี่ยวโยงของนาธานปรากฏอยู่ในห้อง รูปภาพและเอกสารต่างๆวางเกะกะอยู่ที่พื้น ฉันต้องแยกมันให้ออก ต้องเพ่งสมาธิไปที่สิ่งที่เป็นความจริง ฉันเพ่งสมาธิไปที่โคลอี้ ทันใดนั้นเธอก็มีสองคน คนหนึ่งนอนอยู่คนเตียง อีกคนนั่งโค้งอยู่ที่เก้าอี้ ฉันเพ่งไปที่โคลอี้ที่นอนอยู่บนเตียง ฉันรู้ว่าเธอคือตัวจริง ทันใดนั้น กระดานไม้ หลักฐานและโคลอี้อีกคนก็ส่องประกายและก็หายไป
โคลอี้ตัวจริงไม่ได้สังเกตุเห็นว่าฉันเพ่งสมาธิมาที่เธอ ความจริงเป็นเพราะเธอกำลังจุดบุหรี่ต่างหาก โชคดีที่เธอเปิดหน้าต่างทั้งสองบานทำให้กลิ่นมันไม่แรงมาก
"เฮ้ แม็ก"
ฉันรีบเอามือมาปิดจมูกเพื่อกันกลิ่นแย่ๆ "โคลอี้ ทำอะไรของเธอเนี้ย?"
"กัญชาแม็ก ฉันสูบกัญชาอยู่" เธอทำท่าชูนิ้วโป้งและนิ้วชี้ไปที่มือของเธออีกข้าง "มีแค่อย่างเดียวคือฉันไม่อยากให้แม่และพ่อเลี้ยงฉันรู้" เธอยักไหล่ "เฮ้ เธอช่วยเปิดเพลงให้หน่อยได้ไหม แผ่นซีดีน่าจะอยู่ที่ไหนสักแห่งนี้แหละ"
ฉันรู้อยู่แล้วว่าแผ่นซีดีอยู่ที่ไหน ดังนั้นครั้งนี้ฉันจึงไม่ต้องเสียเวลาค้นหา ฉันดึงกล่องเหล็กออกจากใต้เตียงของโคลอี้และเก็บแผ่นซีดี ระหว่างที่เก็บซีดี ฉันเห็นรูปภาพ ขนนกและโปสการ์ดอันเดิมกับเส้นเวลาที่แล้ว ยังไงก็ตาม โคลอี้กลิ้งมาที่ฉันแล้วมองไปที่รูปภาพนั้น
"นั่นเธอล่ะ เรเชล" น้ำเสียงของเธอผสมความเศร้าอีกครั้ง "เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข"
"เข้าใจละ" ฉันตอบเธอไป โคลอี้สัมผัสรูปภาพ สีหน้าของเธอดูเศร้ามาก
"มันช่างมีความสุขจริงๆ"
"ใช่ ฉันเชื่อเธอนะ โคลอี้"
เธอเก็บรูปภาพกลับเข้าไปในกล่องแล้วลากมันเก็บไว้ใต้เตียงเหมือนเดิม "ไม่เอาน่าหนูน้อย มาฟังเพลงกันเถอะ"
ฉันใส่แผ่นซีดีในเครื่องเล่นเพลงและเปิดเพลงเดิมกับเส้นเวลาที่แล้ว มันโครตจะเดจาวูสำหรับฉันเลย อย่างน้อยครั้งนี้ โคลอี้ก็ไม่ได้บอกให้ฉันเอากล่องเครื่องมือออกมาซ่อมกล้อง มันถูกแทนด้วยการที่เธอเอาบุหรี่ออกจากปากแล้วขยี้ตรงที่เขี่ยบุหรี่และบอกให้ฉันมานอนบนที่นอนข้างๆเธอ พวกเรานอนอย่างเงียบๆสักพักหนึ่งจนกระทั้งฉันปวดฉี่ขึ้นมา ฉันบอกโคลอี้ว่าจะไปเข้าห้องน้ำ เธอพึมพำอะไรบางอย่างและฉันก็รู้ว่าเธอนั้นหลับไปเรียบร้อยแล้ว
ฉันกำลังล้างมืออยู่แล้วฉันก็ได้ยินเสียงหัวเราะออกมาจากห้องของโคลอี้ พอฉันเข้ามาในห้องก็พบว่าเธอนั่งอยู่บนที่นอนกำลังอ่านบันทึกของฉันอยู่
"เฮ้ เอาคืนมานะ!" ฉันพยายามไล่จับโคลอี้รอบๆที่นอน เธอชูบันทึกของฉันให้ฉันเอื้อมไม่ถึงโดยอาศัยความสูงของเธอเอง เธอหัวเราะไปด้วยในขณะที่อ่านและแสดงความคิดเห็นต่อบันทึกล่าสุดของฉัน
" 'ไม่มีใครรู้จักฉันนอกจากโคลอี้และตอนนี้ก็ไม่มีใครแยกความแตกต่างของเราได้แล้ว' โครตจะแตกต่างเลยละ 'ดังนั้นฉันจะตัดผมและสัก...' " เธอหัวเราะออกมาอีกครั้ง ฉันจึงใช้โอกาสนี้ในการหยิบบันทึกของฉันคืนมาจากเธอ
"หยุดอ่านบันทึกของฉันได้แล้ว โคลอี้"
โคลอี้ยังคงหัวเราะอยู่ "แม็ก เธอไม่เคยมีรอยสักหรือเจาะรูนะ ครั้งสุดท้ายมันตอนไหนกันนะ ที่เธอแสดงความกล้าหรือความใจถึง"
"ฉันทำได้นะ!" ฉันบอกเธอโดยพยายามทำหน้านิ่งๆ "ฉันมีทั้งความกล้าและความใจถึง"
เธอหัวเราะอีกครั้ง "บอกกับตัวเองไปเถอะแม่สาวน้อย ทำไมเธอถึงไม่แสดงความกล้าตอนนี้เลยล่ะ?"
"ทำอะไร?" ฉันถามโดยหวังให้เป็นสิ่งที่ฉันคิดอยู่ตอนนี้
โคลอี้ใช้เวลานึกสักครู่ "โอเค ฉันขอท้าให้เธอจูบฉัน" เธอยิ้มออกมา ชัดเจนเลยว่าเธอคาดหวังอยากเห็นฉันทำตัวงุ่มง่าม ฉันยิ้มไปที่เธอแล้วเอนตัวไปด้านหน้า แขย่งเท้า ใช้มือข้างหนึ่งสัมผัสแก้มของเธอและจุมพิตไปที่ริมฝีปากของเธอ โคลอี้นิ่งไปชั่วขณะ เพราะกำลังตกใจว่าทำไมฉันถึงจูบเธอ จากนั้นเธอก็ดึงตัวเองออกห่าง
"บ้าจริงแม็ก ฉันไม่คิดเลยนะเนี้ย บางทีเธอ..." เธอหยุดพูด ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร บางทีเธออาจจะรู้สึกถึงบางสิ่งหรือเห็นบางอย่างที่ฉันไม่รู้ "โอ้" เธอพูดอีกครั้ง
"โอ้ อะไรหรอ?" ฉันถามอย่างเป็นกังวล
"แม็ก นี้เธอ...ฉันหมายถึง เธอชอบฉันใช่ไหม?"



โปรดติดตามตอนต่อไป





จบไปกันแล้วสำหรับตอนที่7 ความฟินกำลังใกล้เข้ามาแล้วครับ 55555
ในที่สุดก็ถึงฉากที่ผมรอมาเนิ่นนานเสียที เพราะอยากรู้คนแต่งจะแต่งยังไงให้
ซึ่งเขาก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลยสักนิด และยิ่งจัดหนักในตอนต่อไปครับ 


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Translate