(แปลนิยาย)We are Alive ตอนที่6

ทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก
การเปลี่ยนแปลงสิ่งเล็กๆก็สามารถส่งผลกระทบขนาดใหญ่ได้เช่นกัน
แม็กมาถึงที่ร้านทูวาฬ และได้พบกับอีกหนึ่งคนสำคัญของโคลอี้
ตอนจบที่"สมบูรณ์"ของเรื่องราวระหว่างแม็กกับโคลอี้ ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ต้นฉบับ คลิ๊ก
ในขณะที่เราใกล้จะถึงร้านอาหาร รถกระบะของโคลอี้ก็เกิดเสียงแปลกๆ แล้วเธอก็เอามือตบที่หน้าปัด
"บ้าเอ้ย!"
"เกิดอะไรขึ้น?"
"รถน้ำมันหมดน่ะสิ"
"แล้วไม่ได้ดูก่อนออกรถหรอ?"
"เข็มวัดน้ำมันเสียน่ะสิ" เธอชี้ไปที่หน้าปัดซึ่งกระจกครอบแตกและเข็มก็ไม่มีแล้วด้วย เธอดับเครื่องและเราทั้งคู่ช่วยกันเข็นรถไปที่ปั๊มน้ำมันตรงข้ามกับร้านอาหาร 
"เธอไปที่ร้านอาหารก่อนเลย จองที่นั่งแล้วก็สั่งอาหารรอ ฉันเอาเบค่อนกับไข่ ส่วนเธอก็คงจะเป็นวาฟเฟิลเบลเยี่ยมสินะ" 
ฉันถึงกับยิ้มออกมา เธอจำอาหารที่ฉันชอบได้ด้วย "แน่นอนอยู่แล้ว ฉันคงไม่ไปร้านทูวาฬถ้าไม่มีวาฟเฟิลหรอกนะ"
เธอยิ้มเย้ย "จ้าๆ ยังไงก็เถอะ ไม่ได้เบค่อนตายเธอแน่"
ฉันพยักหน้ารับ แล้วเดินจากมา โคลอี้ก็ทำการเติมน้ำมันให้รถกระบะของเธอ
เมื่อเข้ามาในร้านทูวาฬ เหมือนกับได้กลับไปบรรยาศาสเก่าๆอีกครั้ง มันยังดูเหมือนเดิมตั้งแต่เมื่อ5ปีก่อน ทันใดนั้นฉันเห็นภาพความจริงบิดเบี้ยว ร้านอาหารยังคงอยู่แต่ถูกทับซ้อนด้วยเสียงลมและฝน ฉันเห็นศพคนตายอยู่บนพื้นและรูบนหลังคาร้าน แต่เรื่องพวกนั้นไม่มีอีกแล้ว อย่างกับมันไม่ใช้เรื่องจริง เมื่อฉันเข้ามา ความรู้สึกผ่านเข้ามา รู้สึกเวียนหัวและเริ่มโซเซ จนถูกทักโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นั่งอยู่ตรงบาร์ เป็นตำรวจคนละคนกับที่ฉันเห็นครั้งล่าสุด
"เธอเป็นอะไรมั้ย สาวน้อย?" เสียงเขาเต็มไปด้วยความกังวล
"แค่เวียนหัวนิดหน่อยน่ะคะ" ฉันโกหก "ก็แค่ไม่ได้กินอะไรมาสักพักและอยากหาอะไรสักอย่างกินคะ" เขาเข้าใจฉัน แต่ก็ยังยืนยันที่จะช่วยพาฉันไปนั่งที่ที่นั่งข้างหน้าต่างแล้วเขาก็กลับไปนั่งที่ของเขา ส่วนฉันก็คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น สิ่งที่ฉันเคยเห็นคือร้านอาหารจากพายุ ฉันรู้ว่ามันเคยเกิดขึ้น แต่ตอนนี้มันอะไรกัน มิติความเป็นจริงพยายามจะย้ำตัวมันเองงั้นหรอ? ฉันได้ยินคนเรียกชื่อฉันก็สะดุ้งนิดหน่อย
"ใจเย็นแม็ก" เป็นจอยนั่นเอง เธอยังดูเหมือนเดิม เหมือนกับในความทรงจำของฉัน "เธอดูเหมือนจะต้องการพื้นที่และเจ้าหน้าที่เจ็นกิ้นบอกว่าเธออยากได้อาหาร เอาอะไรดีละ?"
ฉันยิ้มให้เธอ "บอกตรงๆนะคะจอย ฉันไม่ได้กินวาฟเฟิลเบลเยี่ยมตั้งแต่ครั้งสุดท้ายเมื่อ5ปีก่อน"
เธอยิ้มกลับมา "ฉันจัดการให้เธอได้"
"อ่อแล้วก็ โคลอี้ขอเบค่อนกับไข่ด้วยค่ะ"
จอยกลับไปที่เค้าเตอร์เพื่อเตรียมวาฟเฟิลและไข่ ไม่กี่นาทีต่อมา จอยกลับมาพร้อมกับจานใส่วาฟเฟิลเบลเยี่ยมและจานใส่เบค่อนไข่ที่เล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัด เธอวางจานพวกนั้นลงที่โต๊ะ
"แล้วเธอเป็นยังไงบ้างละแม็ก?"
"ก็ดีค่ะจอย"
"แม้ว่าเธอจะ...ถูกยิงงั้นหรอ?" เธอมองมาที่หน้าอกของฉัน 
ฉันยักไหล่เล็กน้อย "ก็ตกใจอยู่หรอก แต่ตอนนี้รับได้แล้วค่ะ"
"ไม่คิดว่าจะได้เจอในเมืองเล็กๆแบบนี้สินะ"
"ฉันก็ไม่คิดว่าจะมีใครอยากเจอแบบฉันหรอกค่ะ" ฉันตอบเธอไป
"ฉันว่าเธอก็พูดถูกนะ โคลอี้ตกใจมากๆตอนที่เธอโทรหาฉัน สิ่งที่ฉันได้ยินมีแค่คนชื่อแม็กโดนยิงในห้องน้ำ สารภาพตามตรงเลยนะว่าตอนแรกฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นเธอ" จอยถอนหายใจ "ที่ฉันอยากจะพูดก็คือ ฉันดีใจที่เธอกลับมา โคลอี้จะได้มีเพื่อนอีกครั้งสักที"
"ฉันรู้ว่ามันยากสำหรับพวกคุณสองคนและขอโทษที่ไม่ได้โทรหาเลย"
"เธอทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วละ ใช้ชีวิตต่อไป ฉันเองก็ทำหลังจากที่วิลเลี่ยมจากไป โคลอี้โกรธฉัน และเธอก็ยังคงโกรธอยู่ ฉันดีใจที่ได้ยินว่าเธอยังคงอยู่ที่อ่าวอาเคเดียต่อไป แม้จะเกิดเรื่องขึ้นก็ตาม ฉันหวังว่าเธอจะเป็นเพื่อนที่ดีกับโคลอี้นะ"
"ฉันสัญญาค่ะ จอย"
แล้วเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น ดึงความสนใจของจอย
"พูดถึงก็มาทันทีเลยนะ" จอยบ่นใส่โคลอี้
โคลอี้เดินเข้ามาหาฉันและจอย "แม่กับแม็ก อยู่ด้วยกันอีกครั้ง"
"และโคลอี้ก็กำลังมองหาเนื้อ" ความรู้สึกที่คุ้นเคยผ่านเข้ามาในหัวอีกครั้ง แต่มันคือเดจาวูจริงๆงั้นหรอ ก็ในเมื่อฉันเคยผ่านเรื่องราวแบบนี้มาก่อนแล้ว?
โคลอี้และจอยเถียงกันเรื่องของเดวิดที่หลังร้าน แม้ว่าโคลอี้จะไม่ได้ดุดันมากเหมือนเส้นเวลาก่อนก็ตาม การเถียงกันจบลง โคลอี้เดินมานั่งที่เบาะตรงข้ามฉัน เธอมองดูแล้วรู้ว่าจานของฉันมากกว่าของเธอ แล้วก็ขโมยวาฟเฟิลของฉันไป
"เฮ้ ไหนบอกว่าถ้าไม่ได้เบค่อนแล้วตายไง?"
"ก็ฉันได้เบค่อนแล้วไง" เธอพูดโดยที่ปากเต็มไปด้วยวาฟเฟิลที่ขโมยไป เธอชี้ไปที่จานของเธอ "ฉันเหมาหมด"
"เธอขโมยวาฟเฟิลของฉันนะ!"
เธอแลบลิ้นใส่ฉัน "แน่จริงก็มาเอากลับไปสิ!" ฉันพยักหน้าให้กับพฟติกรรมของเธอ
พวกเรานั่งกินไปอย่างเงียบสักพัก ก่อนที่โคลอี้จะพูดขึ้นมา "ว่าแต่ ฉันเพิ่งสังเกตุว่าเธอไม่ได้เอากล้องติดตัวมาด้วยนี้นา?"
ฉันยักไหล่ "มันพังตอนที่ฉันล้มลงในห้องน้ำ ฉันก็ขอยืมกล้องมาจากแบล็กเวลแล้วละ แต่ไม่ได้เอามา"
"แย่จริง เฮ้ ฉันรู้นะว่าวันเกิดเธอเพิ่งผ่านไปเมื่อเดือนที่แล้วนี้เอง" เธอเอื้อมไปหยิบกล่องที่ฉันไม่ได้สังเกตุว่าเธอเอาเข้าร้านมาด้วย "และเจ้าสิ่งนี้มันก็อยู่ในลิ้นชักของฉันจนฝุ่นเกาะนิดหน่อยแล้วด้วย" เธอวางกล่องที่หยิบมาไว้บนโต๊ะ ฉันรู้อยู่แล้วว่าอะไรอยู่ในกล่องใบนั้น เธอเปิดกล่องใบนั้น "ฉันมั่นใจเลยว่าฉันจะไม่ได้ใช้มันเร็วๆนี้แน่ และพ่อฉันคงหัวเสียแน่ถ้ามันไม่ได้ถูกใช้น่ะ"
"โคลอี้ เธอแน่ใจนะ ฉันหมายถึง...."
เธอเลื่อนกล่องมาหาฉัน "รับไว้เถอะยัยบื่อ แล้วไปถ่ายภาพสุดเจ๋งด้วยกล่องใบนั้นซะ"
"โคลอี้ ขอบใจนะ กล่องนี้มันสวยมากเลย" ฉันส่องกล้องไปรอบๆแล้วก็เล็งไปที่หน้าโคลอี้ "ยิ้ม!" เธอยิ้มแล้วก็ชูนิ้วเป็นสัญลักษณ์สันติภาพ และเธอก็แลบลิ้นออกมาในจังหวะสุดท้ายก่อนถ่ายภาพ
"โคลอี้!"
เธอหัวเราะ "ดีจริงๆที่เธอกลับมานะ แม็ก"
"รู้สึกดีจริงๆที่ได้กลับมา โคลอี้"


โปรดติดตามตอนต่อไป







จบตอนที่6แล้วครับ แม็กก็ได้เจอกับจอยเรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์เกือบทั้งหมดยังคงเกิดอยู่
เพียงแต่มีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต่างออกไป ซึ่งคนแต่งเขาแต่งได้ดีมาก 
ส่วนผู้แปลก็ยังคงดำน้ำเหมือนเดิม 5555 จะปรับปรุงครับผม



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Translate