(แปลนิยาย)We are Alive ตอนที่2

ทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก 
การเปลี่ยนแปลงสิ่งเล็กๆก็สามารถส่งผลกระทบขนาดใหญ่ได้เช่นกัน
ผลของการเผชิญกับนาธาน มันส่งผลที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม
แม็กถูกยิงแทน และกำลังจะตายในไม่ช้า
ตอนจบที่"สมบูรณ์"ของเรื่องราวระหว่างแม็กกับโคลอี้ ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ต้นฉบับ คลิ๊ก
"นี้ฉันอยู่บนสวรรค์งั้นหรอ" ฉันรู้สึกมึนงง ปวดหัว และเห็นแสงสีขาว
    ไม่ใช่ ที่นี้ไม่ใช่สวรรค์ ฉันเห็นแสงสีเขียวและเห็นเครื่องจักรล้อมรอบ ที่นี้คือโรงพยาบาล ฉันได้ยินเสียงมาจากที่ไกลๆ ฉันพยายามขยับร่างกาย แต่ว่าทำไม่ได้ เป็นเพราะฉันอ่อนแรงหรือฉันเป็นแบบโคลอี้เคยเป็น อัมพาต! ฉันยังจำคำพูดที่เธอพูดถึงความเจ็บปวดได้อยู่เลย ฉันไม่ต้องการแบบนั้นนะ
    เดี่ยวก่อนนะ โคลอี้ยังมีชีวิตอยู่หรือป่าว? จากนั้นก็มีเสียงใกล้เข้ามา 
"แม็กซิน แม็กซิน คุณได้ยินผมมั้ย ตอบสนองอะไรได้บ้าง?" หมอและนางพยาบาลเข้ามาพูดกับฉัน
"มะ...แม็ก อย่าเรียกแม็กซินค่ะ" ฉันตกใจเสียงตัวฉันเอง มันฟังดูกระท่อนกระแท่นมากๆ
"เธอตอบสนองแล้ว เธอฟื้นแล้วค่ะ"นางพยาบาลพูด
    มันมากกว่าฟื้น นั้นคือฉันยังมีชีวิตอยู่ หมอบอกว่าฉันหลับไปหนึ่งสัปดาห์ ตั้งแต่วันจันทร์ที่14ตุลาคม หมอบอกว่าฉันนั้นโชคดีจริงๆ เพราะกระสุนที่นาธานยิงนั้นมันโดนกระดูกสันอก กระสุนเจาะเข้าไปแต่ก็ถูกหยุดเอาไว้ และพวกเขาบอกว่าครอบครัวของฉันรอเจอฉันอยู่ด้านนอก และฉันก็อยากเจอพวกเขา
    ครอบครัวของฉันรู้สึกโล่งใจที่เห็นฉันฟื้นแล้ว พวกเขาร้องไห้ ฉันไม่เคยเห็นพ่อร้องไห้มาก่อน ไม่ชอบแบบนี้เลย พ่อและแม่ไม่ควรจะร้องไห้ พวกเขาบอกว่า ดีใจที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาบอกว่าจอยโทรหาพวกเขาหลังจากที่โคลอี้บอกจอยเรื่องที่เกิดขึ้นกับฉัน ฉันจึงถามหาโคลอี้ พวกเขาบอกว่าโคลอี้ตกใจที่เห็นฉันนอนจมกองเลือดในห้องน้ำหญิง เธอ(โคลอี้)อยากจะมาดูฉันชัดๆ แต่เธออยากให้เวลากับครอบครัวฉันก่อน ซึ่งฉันก็เข้าใจ ฉันจึงถามพวกเขาว่าฉันพลาดอะไรไปบ้างระหว่างที่ฉันอยู่โรงพยาบาล พ่อและแม่เหลือบมองกันและกันเหมือนมีบางสิ่งที่ไม่อยากบอกฉัน แต่ฉันอยากรู้จนพวกเขายอมบอก 
    เมื่อตำรวจมาจับนาธาน เขายอมจำนนและบอกตำรวจทุกๆเรื่อง จนตำรวจเจอห้องทำงานของมาร์ค เจฟเฟอร์สันและได้ทำการจับกุมเขา พ่อแม่ไม่ได้บอกฉันว่าห้องนั้นมันมีอะไรแต่ฉันก็รู้ดี เพราะไม่ว่ายังไงมันก็สายไปแล้ว ฉันรู้เพราะฉันก็เคยเป็นหนึ่งในเด็กผู้หญิงที่อยู่ในห้องนั้น พวกตำรวจไม่มีวันรู้หรือเข้าใจสิ่งที่เกิดในที่หลบภัยแห่งนั้น และไม่มีสัญญาณบ่งบอกถึงพายุ ไม่มีพายุอีกต่อไปแล้ว ฉันช่วยชีวิตโคลอี้และมันไม่มีพายุอีกแล้ว แล้วตอนนี้ฉันก็ยิ้มออกมาในขณะที่ค่อยๆโน้มตัวลงนอน 
"ฉันทำสำเร็จ ฉันช่วยเพื่อนและอ่าวอาเคเดียไว้ได้!"
    แล้วฉันก็หลับไป เมื่อฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง โคลอี้ก็มาอยู่ที่นี้แล้ว เธอพาดเสื้อแจ๊คเก็ตไว้ที่หลังเก้าอี้แล้วนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้ในห้องนี้ เธอวางหมวกไว้ที่พื้นข้างหลัง ผมสีฟ้าของเธอช่างดูยุ่งเหยิง แต่ว่าเธอก็ยังคงงดงามในสายตาฉัน ฉันพยายามลุกขึ้นนั่ง นั้นทำให้ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้เป็นอัมพาตก็แค่ยังอ่อนแรงเฉยๆ ด้วยความที่ยังอ่อนแรงฉันเผลอทำของบางอย่างตกจากโต๊ะ มันตกลงแตกที่พื้น ฉันพยายามใช้พลังเพื่อย้อนเวลา แต่ทำไม่ได้? มันเป็นเพราะฉันอ่อนแรงอยู่หรือฉันไม่มีพลังย้อนเวลาอีกแล้ว ฉันยังคงจำภาพของการทำลายล้างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้ บางที นี้คงจะดีที่สุดแล้วละ เพราะเสียงนั้นทำให้โคลอี้ตื่นจนได้ ฉันจึงยิ้มให้เธอ
"แม็ก! เธอตื่นแล้ว!"
"ใช่แล้วละ" ฉันทำได้เพียงเท่านี้ แต่ฉันไม่สนหรอก เธอยังมีชีวิตอยู่ โคลอี้ที่รักของฉัน
"ยัยบ้าแม็ก ฉันไม่ได้เจอเธอมาเกือบ5ปี แล้วอยู่ๆเธอก็โผล่ออกมาโดนยิงเข้าที่หน้าอกซะงั้น"
"เอ๊ะ ฉันนึกว่าฉันถูกยิงที่ห้องน้ำซะอีกนะเนี้ย" ฉันพูดหยอกล้อกับเธอ 
"บ้าจริงแม็ก เธอนี้เลือกเวลาเล่นมุขได้ถูกจังหวะจริงๆ"เธอหัวเราะ ฉันชอบจริงๆเวลาที่เห็นเธอหัวเราะ
"ฉันขอโทษนะ" ฉันพูดออกไป 
"ขอโทษเรื่องอะไร" โคลอี้มึนงง
"เรื่องที่ไม่เคยโทรหา เรื่องที่ทิ้งเธอตอนไปที่เมืองซีแอตเทิน"
"บ้าจริง เธอนี้เป็นอย่างนี้เสมอเลยนะ" โคลอี้ทำตัวผ่อนคลาย
"แต่ตอนนี้เธอก็กลับมาแล้วและฉันคิดว่าเธอช่วยชีวิตฉันไว้นะแม็ก ถ้าเธอไม่ได้เข้ามายุ่ง ไอ้บ้านั้นมันอาจจะยิงฉันและฉันก็คงไม่ได้โชคดีแบบเธอแน่ๆ" เธอพูดถูก ฉันนั้นโชคดีสุดๆอย่างที่บอกนั้นแหละ
"ว่าแต่ ฉันทำอะไรแตกหรอ?" ฉันถามโคลอี้
"แจกันดอกไม้น่ะ จาก เอ่อ...จากคนชื่อเคท" จากนั้นเธอก็นำดอกไม้สีเหลืองใส่แจกันอีกใบ ที่ใส่ดอกไม้สีฟ้าไว้ก่อนแล้ว ฉันรู้ทันทีว่านั้นคือดอกไม้ของวอเร็น ทำให้ฉันรู้ว่าเคทยังมีชีวิตอยู่ ฉันกลัวเหลือเกินว่าตอนที่ฉันอยู่ในโรงพยาบาลเธอจะกระโดดตึกตายไปแล้ว ดีจริงๆที่เธอไม่ได้ทำ โคลอี้ลากเก้าอี้เข้ามาใกล้ๆเตียงของฉันแล้วนั่งลง เธอโน้มตัวเข้ามาหาฉัน วางศอกไว้ที่เข่าและกำมือไว้แน่น
"โคลอี้ เป็นอะไรหรือป่าว?"ฉันรู้สึกผิดปกติจึงถาม
"ฉันแค่รู้สึกว่ามันเป็นความผิดของฉันแม็ก ถ้าฉันไม่ได้แบล็กเมล์นาธานให้ไปเจอกันที่ห้องน้ำละก็ เธอก็คงจะไม่ถูกยิงแล้วมานอนอยู่ที่โรงพยาบาลหรอก" เธอโทษตัวเองถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องใช้พลังก็รู้ได้ถึงความรู้สึกของเธอ และฉันก็รู้ว่าเธอต้องการจะได้ยินอะไร
"มันไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกนะโคลอี้ ฉันไม่โทษอะไรเธอทั้งนั้น ฉันดีใจนะที่ฉันและเธอไม่ตายน่ะ"
"นั่นสินะ ฉันหวังว่าเธอจะหายเร็วๆนะ ดีจริงๆที่ได้เจอเธออีกครั้งนะแม็ก"เธอยิ้มได้อีกครั้ง
"ฉันก็เหมือนกัน โคลอี้"
"งั้นก็ ฉันต้องไปแล้วละ ต้องกลับบ้านก่อนที่พ่อเลี้ยงของฉันจะถึงแล้วกล่าวหาฉันเรื่องที่ฉันขายยา"
เธอลุกขึ้นแล้วหยิบเสื้อแจ๊กเก็ตจากเก้าอี้แล้วเดินไปหยิบหมวกของเธอที่พื้น 
"ถ้าเธออาการดีขึ้นเมื่อไหร่ เราไปดื่มกันนะแม็ก แล้วโทรมาล่ะ"
"ฉันจะโทรแน่นอน"ฉันให้สัญญากับเธอ เมื่อเธอไปแล้ว ฉันก็มองออกไปที่หน้าต่าง เห็นเธอขึ้นรถกระบะขับออกจากโรงพยาบาลไป โคลอี้ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
    ฉันล้มตัวลงนอนที่เตียง และยังคงยิ้มอยู่แบบนั้น ฉันทำได้ ฉันช่วยชีวิตโคลอี้สุดที่รัก ผมสีฟ้าพังก์ที่ดูสวยงาม เธอยังมีชีวิตอยู่และเราสามารถตกหลุมรักกันได้อีกครั้ง....

โปรดติดตามตอนต่อไป




ก็จบไปสำหรับตอนที่สองนะครับ เรื่องราวทุกอย่างถ้าบอกจบลงแค่นี้ก็ยังได้
แต่ผู้แต่งเขียนถึงตอนที่10แล้วครับ แสดงว่าอีกยาว555
ไม่เคยเขียนหรือแปลนิยายมาก่อนเลยจัดรูปแบบไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่
จะพยายามแก้ไขครับผม

แม็ก&โคลอี้ บันไซ!!!


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Translate